แกะกล่อง iPhone 5s สีทอง

เมื่อไม่นานมานี้ apple มีการเปิดตัว iphone รุ่นใหม่คือ 5s และ 5c <อ่านเพิ่มเติมตอนเปิดตัว : “https://konthiang.wordpress.com/2013/09/11/ของใหม่ก่อนเที่ยง-iphone-5s-iphone-5c/ “>

ซึ่งที่เป็นประเด็นกันทางสังคมตอนนี้คือiPhone 5s สีทอง ซึ่งถึอเป็นการออกแบบการใช้สีที่ดูจะเข้าตาใครหลายๆคน(หรือเพราะคำว่าสีทองก็ไม่แน่ใจ)

และก็มีน้ำชายี่ห้อหนึ่ง ได้ทำการซื้อเครื่องมาก่อน(ที่ไทยจะมีขาย) เพื่อแจก และจงใจแจกสีทองซะด้วย จึงเป็นกระแสขึ้นมาทันที

และก่อนที่ประเทศไทยจะได้ iphone 5s เข้ามาขายอย่างเป็นทางการนั้น แหล่งขายโทรศัพท์ที่หิ้วมาจากต่างประเทษ

ก็ได้ไปหิ้วกันมาและบวกราคาเพิ่ม(อันนั้นเป็นเรื่องปกติ) แต่ครั้งนี้ ก็มีการบวกราคาอีกเช่นกัน และในสีทองนั้นเอง

ราคาของเครื่องหิ้วนั้น ก็เคยขึ้นไปแตะเกือบ 50,000 บาท

และเมื่อไม่นานมานี้ ประเทษไทยก็ได้เครื่อง iPhone

รุ่นใหม่ มาขายอย่างเป็นทางการ

 

โดยทั้ง 3 ค่าย ก็มีการแจกจ่ายให้กับผู้จองก่อนตามวิธีของตนเอง ซึ่ง

ais ได้แจกเครื่องไปทั่วประเทษ และรับที่สาขาที่ต้องการ(ตอนจอง)ได้ในวันแรก

Dtac มีการแจกเครื่องโดยขับไปให้ถึงหน้าบ้าน หรือไปรับที่ตึกจามจุรีสแควร์(dtac)

Truemove มีการจัดงานที่ Central ลาดพร้าว ตอนเที่ยงคืน

 

ซึ่งนั้นก็ทำให้ iPhone 5s สีทองในล็อตแรก เกือบหมดไปอย่างรวดเร็ว
และในวันถัดๆมา ก็ได้มีคนพยายามจะแย่งชิงเจ้าสีทองกันอย่างเมามัน ทั้งที่ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง

 

และวันนี้ เราก็ได้มันมาแล้ว เจ้า iPhone 5s สีทอง

โดย วันนี้เราจะมาแกะกล่องเท่านั้น ว่าทำไมมันต้องสีทองกันด้วย (เพราะการใช้งาน เหมือนๆกันกับ iPhone นั่นแหละ)

มาดูกล่องกันเลย
กล่องด่านหน้าได้เปลี่ยนแบบการตั้งเครื่องไป จาก iPhone 5 โดยกล่องและสีเครื่องจะตรงกัน (ซึ่งสีทองจะเห็นขอบๆและรอบปุ่มHomeเป็นสีทอง (ซึ่งสังเกตข้อยข้างยาก เมื่อเทียบกับสีเงิน))

ด้านข้าง เขียนว่า iPhone 5s เป็นสีทอง (ตามสีเครื่อง)

ด้านหลัง บ่งบอกว่าเป็นเครื่องไทย ด้วยรายละเอียดภาษาไทย และมีเขียนเลยว่าสีทอง

มาแกะกันเลย
โดยกล่องจะมีเคลือบพาสติกอ่อนมามา ก็กีดมันซะ

จับฝาบน แล้วข้อยๆเคาะเบาๆลงบนมืออีกข้างหนึ่ง ฝากล่องก็จะหลุดออกจากกล่องอย่างง่ายดาย

เมื่อเปิดกล่องมี แน่นอน เจอเครื่องนอนแน่นิ่งหันหน้าขึ้นประชันกับสายตาที่จับจ้อง (เยอะไปและ)

เมื่อนำเครื่องขึ้นมา จะมีทีดึงพาถาดลองเครื่องขึ้นมา

เมื่อดึงชั้นนั้นขึ้นมา ก็จะมีกระดาษคล้ายกล่อง ที่บรรจุ

เมื่อเปิดกล่องกระดาษนี้ออก จะเจอที่กดซิมการ์ดออกจากเครื่อง แขวนอยู่ที่กล่อง พร้อมวิธีใส่ซิม

ภายในกล่องกระดาษนี้ จะมี วิธีใช้คร่าวๆต่างๆ ข้อกำหนดรับประกัน คำแนะนำ และที่ขาดไม่ได้คือ สติกเกอร์รูปApple 2 ลูก

กลับมาที่กล่อง
เมื่อดึงชั้นขึ้นมา ก็จะเจออุปกรณ์ทั้งหมดนอนเป็นละเบียบอยู่ด้านล่าง

ที่ชาร์จ 5V 1A ขนาดเล็ก

สาย Lightning ไป usb ความยาวปกติ

ชุด EarPods

สรุป

  • เครื่องสีทอง ภายในกล่องมีอุปกรณ์ไม่ได้มีอุปกรณ์ใดต่างจากเครื่องสีอื่น
  • เครื่องศูนย์สีทอง ราคาเท่ากับสีอื่น (ในความจุที่เท่ากัน)
  • เครื่องศูนย์ ที่ซื้อจากร้านตู้ ราคาแต่ละสีจะไม่เท่ากัน(ไม่ต้องสงสัย สีนิยมของหายาก) (รวมถึงเครื่องหิ้วด้วย ซึ่งเครื่องหิวจะมีราคาพอๆกับเครื่องศูนย์ที่ซื้อเครื่องศูนย์จากศูนย์เลย (ดูให้ดีๆ))
  • เครื่องหิว ไม่มีประกัน(ของ apple) กรุณาคุยกับทางร้านดีดี
  • เครื่องสีทองไม่ได้หายากขนาดนั้น
  • เครื่องสีทองไม่ได้มีลูกเล่นอะไรพิเศษกว่าสีอื่น
  • เครื่องสีทอง ไม่ได้สีทองแบบทองคำ(ประกายแวววับ)ขนาดนั้น (อันนี้ต้องเข้าใจ)
  • ทุกคนไม่ได้ชอบสีทองไปซะหมดนะ อย่าไปว่าคนอื่นเข้า(มันต้องมี เชื่อเถอะ)
  • เครื่อง iPhone นั้น ไม่ใช่เครื่องของ iStudio เอง (เครื่องจะต้องเป็นเครื่องจากค่ายใดค่ายหนึ่ง)
  • ทั้ง 3 ค่าย ขายเครื่องในราคาเกือบจะเท่ากัน ในการซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกด(นั้นแปลว่าไม่เท่ากัน แต่ต่างกันไม่มาก)
  • จะซื้อ iPhone นั้น ซื้อเครื่องเปล่าก็ได้ ไม่ได้จะต้องบังคับเปิดเบอร์ใหม่
  • เครื่องที่ซื้อมานั้น ไม่ว่าจะซื้อของค่ายไหน สามารถใช้ได้กับทุกค่าย (แต่เวลาเครื่องมีปัญหา กรุณาไปหาตามค่ายของเครื่อง)
  • ซื้อ iPhone มีประกันจาก Apple มาให้ 1 ปี แต่ร้านบางร้าน(เช่น iStudio บางร้าน(เพราะ iStudio ไม่ได้เจ้าของเดียวกันหมด) จะบังคับให้ซื้อประกันเพิ่ม นั้นแปลว่า ไม่เกี่ยวกับ Apple โดยตรง (อันนี้ต้องเข้าใน) **ส่วนตัว ซื้อเครื่องจาก iStudio by uFicon บังคับให้ซื้อประกันเพิ่ม(ที่เขาทำกับบริษัทประกันภัย) ราคาเพิ่มอีกประมาณ 1,000 บาท และต้องซื้ออะไรก็ได้ในร้านอีกหนึ่งชิ้น)
  • สำหรับประกันที่ซื้อเพิ่ม (แบบที่โดนยัดเยียดให้ซื้อ หรือซื้อเพราะประกันเครื่องจริงๆ) ระยะประกัน และข้อกำหนดในการประกัน กรุณาอ่านให้ดีๆ **โดยส่วนตัว ที่ได้จาก iStudio by uFicon มานั้น เขาบอกไว้ว่า ระยะประกัน 1 ปี ใน 1 ปีสามารถใช้ได้ 1 ครั้ง โดยเสียค่าบริการ(เปลี่ยนเครื่องใหม่) ในกรณีที่ไม่ว่าจะกระจกแตก ตกน้ำ ฯลฯ 10% ของราคาเครื่องเรา (ดูเหมือนไม่คุ้มยังไงไม่รู้ แต่ก็ซื้อมา)
  • เปิดเครื่องมีข้างกล่องเขียนว่า xx GB แล้วทำไมพื้นที่เหลือที่ใช้ได้จริงจึงไม่เต็มที่ซื้อมา (อันนี้ต้องเข้าใจ) ทุกยี่ห้อทุกรุ่น จะใช้พื้นที่ได้ไม่เต็มที่ซื้อมา เป็นเรื่องปกติ โดยเครื่อง 16GB จะเหลือประมาณ 14 GB ,32  GBเหลือ 27 GBและ 64 GB เหลือ 58 GB (ประมาณๆ นะครับ)
  • iPhone 5s ไม่มี app “Touch ID” เหมือนเครื่องที่ร้านนะ (เพราะ Touch id มีไว้ปลกล๊อกแทนรหัส ไม่ใช่มานั่งสแกนเล่นกัน (ที่ร้านมีนั้น เพราะว่าเป็นเครื่อง demo จึงให้ทดลองใช้ดูเท่านั้น))
  • สำหรับคนเริ่มใช้iPhoneเป็นสินค้า apple ชิ้นแรก Apple ID สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ต้องมีบัตรเครดิดก็สมัครได้ และไม่ได้ยากขนาดนั้น (กรุณาหาวิธีสมัครใน google หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ iStudio เขาก็ช่วยได้นะ)
  • App ใน iOS มีให้เลือกทั้งฟรีและเสียตัง เลือกใช้ตามความต้องการแล้วกัน(ไม่ได้จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆอย่างที่หลายคนเข้าใจ)
  • การลงApp ร้านตู้ (500 บาท(หรือน้อยกว่านั้น) เลือกลงได้)ไม่ผิด แต่ก็ไม่ได้ถูกต้องตามหลักการซักเท่าไหร่ (สำหรับคนซีเรียดเรื่องลิขสิทธิ์)(ถ้าจะลงร้านจริงๆ หาร้านที่เชื่อใจได้ ว่ามันจะไม่ปิดร้านหนี)
  • ถ้าไม่เข้าใจวิธีใช้ตรงไหน ในเว็ป http://www.apple.com/support/iphone/ ก็พอจะมี ไม่ได้ต้องไปซื้อหนังสือซะตลอดก็ได้

ก็ได้แค่แกะกล่องแต่ไม่ได้รีวิวเครื่อง (เพราะนี่แกะกล่อง) แต่โดยรวมเท่าที่เล่นมา รวมๆดีมาก จะติดอยู่อย่างเดียวก็คือเรื่องราคา ซึ่งถ้ารับได้ในจุดนั้น ก็เป็นตัวเลือกในการซื้อโทรศัพท์เครื่องต่อไปได้ ไม่แพ้ใครเลยจริงๆ แต่ถ้าใช้ iPhone 5 อยู่ ก็ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนก็ได้นะ (ถ้าไม่ geek จริงๆ) อาจจะเร็วขึ้นกว่าก็จริง แต่เชื่อเถอะ ว่าเราไม่ได้ใช้app ที่ต้องใช้พลังเครื่องขนาดนั้น แต่ถ้าจำเป็นใช้ iPhone 5s นั้น จะสามารถทำให้ท่านใช้โทรศัพท์เครื่องนี้ไปได้อีกนานเลยทีเดียว
อย่าเชื่อใครจนกว่าจะได้ลองเอง ถ้ากำลังจะย้ายมาจากฝั่ง android กรุณาศึกษาให้ดีๆก่อน การใช้งานจริงๆแล้วก็ไม่ได้ต่างกันขนาดนั้น

ขอโทษจากใจถ้ารูปจะน้อยไป(กว่าปกติ) แต่ขอแทนด้วยสรุปแล้วกัน ^^ ขอบคุณที่อ่านจนจบ

ปล.ส่วน iPhone 5C นั้น คนรอบๆตัว ไม่มีใครซื้อเลยจริงๆ จึงหามาแกะไม่ได้

ของใหม่ก่อนเที่ยง iPhone 5s , iPhone 5c


เมื่อคืน มีงาน Apple Special event  ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นงานของ Apple

ซึ่งเมื่อคืนนี้ก็มีการปล่อยของที่เป็นชิ้นเป็นอันออกมา 2 ชิ้นคือ

iPhone 5c และ iPhone 5s

ซึ่งเป็น เจนเนอเรชั่นใหม่ของ iphone เรามาดูกันทีละตัว

เริ่มที่ iphone 5c

โดยสังเกตง่ายๆ เครื่องจะเป็นสีสี

หนาประมาน 9 mm

ฝาหลังเป็น polycarbonate (เขาห้ามเรียกพลาสติกนะจ๊ะ)

จอเป็น Retina Display 4″ 326ppi

ถึงฝาหลังจะเป็น พลาสติก แต่ก็มีเสริมเหล็กมา ประกอบกับ เสาสัญญาณ ข้างๆเครื่อง

แอปกล้อง แบบใหม่

ใช้ชิป Apple A6 (คิดง่ายๆก็ iphone5 นั้นแหละ)

กล้อง 8ล้าน f2.4 เลนส์ 5 ชั้น พร้อม LED แฟลช

กล้องหน้าHD (1.2MP) ที่ พิกเซลขนาด 1.9 ไมครอน (ยังไม่ข้อยเข้าใจเหมือนกัน)

รองรับ LTE wifi dual bands

พร้อมมากับ ios7 เลยยย

มี 2 ความจุคือ 16 GB และ 32 GB (ราคายังระบุไม่ได้แน่ชัด)

และยังมาพร้อมกับเคสยางในราคา 29$ (ไม่แถมนะจ๊ะ)

ถัดมาคือ
iPhone 5s

โดยจะมี 3 สีดังรูป (ไม่มีที่เป็นสีดำสนิด (ฉนั้นแยกแยะง่ายๆ ถ้าดำทั้งเครื่องคือ iPhone 5))

หนา 7.6 mm

ตัวเครื่องทำจาก aluminum เกรดสูง

ดูข้างในเครื่อง
ipHone 5s ใช้ชิป A7 (ใหม่)

เป็นโทรศัพท์เครื่องแรกของโลกที่ใช้ CPU 64bit

และนี้เป็นกลยุทธ์ของ Apple ที่นำมาสู้กับ ฝั่ง android โดยการใช้ 64 บิท มาสู้

แต่ยังกลับมารันแอปที่เป็น 32 bit ได้นะ

ซึ่ง cpu มีความเร็วข้นกว่าเดิม

กราฟฟิก ก็เพิ่มขึ้น

และcpu ยังมีชิปอีกตัวหนึ่งช่วยทำงาน ชื่อว่า M7

ซึ่ง M7 นี้ จะมาช่วยใสเครื่องของการคำนวนค่าต่างๆ เช่นกับการเคลื่อนไหว เป็นต้น

แต่ก็ไม่ได้ช่วยเครื่องการประหยัดพลังงานเลย

มาดูกล้องกัน
iphone5s มีกล้องขนาด 8 MP f2.2 กระจก 5ชิ้น เซนเซอร์ใหญ่ขึ้น

ซึ่งใช้การถ่ายแบบหลายรูปและเลือกที่ดีของแต่ละรูปมารวมกัน

True Tone flash ทำให้รู้เป็นธรรมชาติขึ้นเมื่อใช้เฟลช

มีระบบกันสั้นอัตโนมัติ

ถ่ายรูปรัวๆได้

Slo-mo ถ่ายวิดิโอที่ 120fps ที่ HD(720p) (มันคือการถ่ายแบบสโลโมชั่น)

Touch ID

มันคือที่สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถสแกนได้ 360องศาเลย

และมันซ่อนอยู่ที่ปุ่ม Home นั้นเอง

มันสามารถใช้แทนการใส่รหัสได้

มี 3 ความจุคือ 16 GB 32 GB และ 64 GB (ราคายังระบุไม่ได้แน่ชัด)

และมาพร้อมเคสเช่นกัน ในราคา 39$ (มี Product RED ด้วย)

และจะขายทั่วโลกในเดือน ธันวาคมนี้ (โดยจะเริ่มทยอยจาก US -> 10 ->100 ประเทศ)

โดนรายละเอียกเพิ่มเดิม ดูได้จากด้านล่าง

iphone 5c : http://www.apple.com/iphone-5c/specs/

iphone 5s : http://www.apple.com/iphone-5s/specs/

ขอขอบคุณรูปจาก : #TheVerge และ #CNET